การช่วยตัวเอง (Masturbation) เป็นพฤติกรรมทางเพศที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย และถือเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางเพศที่เป็นธรรมชาติ แต่เมื่อพูดถึงในมุมของกลุ่ม LGBTQ+ การช่วยตัวเองกลับมีความหมายที่ลึกซึ้งมากกว่าแค่ความสุขส่วนตัว เพราะมันยังเกี่ยวพันกับเรื่อง เสรีภาพทางเพศ สุขภาพกาย และใจ การยอมรับตัวตน และพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกทางเพศ เราจะพาเจาะลึกว่าช่วยตัวเอง มีความเชื่อมโยงกับสิทธิ และเสรีภาพของชาว LGBTQ+ อย่างไร ช่วยสร้างสุขภาพทางเพศอย่างปลอดภัยได้อย่างไร และทำไมการเปิดพื้นที่พูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผยจึงสำคัญต่อสังคม
ช่วยตัวเอง คืออะไร?
การช่วยตัวเอง (Masturbation) คือ การกระตุ้นอวัยวะเพศหรือส่วนไวต่อสัมผัสของตนเองเพื่อให้เกิดความพึงพอใจทางเพศ อาจถึงจุดสุดยอดหรือไม่ก็ได้ และ ไม่จำเป็นต้องมีคู่นอน เป็นพฤติกรรมที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย—ทั้งเพศชาย เพศหญิง ผู้มีความหลากหลายทางเพศ คนข้ามเพศ (Transgender) และบุคคลที่ไม่จำกัดเพศ (Non-binary)
สำหรับชาว LGBTQ+ การช่วยตัวเองยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ในการสำรวจร่างกาย ความรู้สึก ความชอบ และยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตัดสินจากผู้อื่น
มิติทางการแพทย์: ช่วยตัวเองกับสุขภาพกาย
งานวิจัยทางการแพทย์จำนวนมากยืนยันว่า การช่วยตัวเองเป็นพฤติกรรมที่ปลอดภัย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น
- ลดความเครียด และความวิตกกังวล
- ส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น
- กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก (ในเพศชายกำเนิด)
- ช่วยให้ผู้ที่มีช่องคลอดเข้าใจการทำงานของร่างกาย และการตอบสนองทางเพศ
ในกลุ่ม LGBTQ+ การช่วยตัวเองยังช่วยให้เข้าใจอัตลักษณ์ทางเพศได้ดียิ่งขึ้น เช่น เกย์ที่เรียนรู้ความสุขจากการกระตุ้นบริเวณทวารหนัก หรือหญิงรักหญิงที่เรียนรู้การกระตุ้นจุด G-spot หรืออวัยวะเพศส่วนนอกของตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นการ สร้างความรู้สึกมั่นใจ และเข้าใจร่างกายตนเอง
มิติทางจิตวิทยา: การช่วยตัวเองคือพื้นที่ปลอดภัย
สำหรับหลายคน โดยเฉพาะชาว LGBTQ+ ที่อาจเผชิญการกดดันจากครอบครัวหรือสังคม การช่วยตัวเองเป็น พื้นที่ปลอดภัย (Safe Space) ที่ทำให้พวกเขาสามารถแสดงออกทางเพศได้โดยไม่ต้องกลัวการตัดสิน
- เป็นวิธีสำรวจความรู้สึกโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
- ลดแรงกดดันจากสังคมที่ยังตีกรอบเรื่องเพศ
- เป็นการยืนยันว่าความสุขทางเพศของเราสำคัญไม่แพ้ใคร
ดังนั้น การช่วยตัวเองสำหรับชาว LGBTQ+ ไม่ได้เป็นเพียงการปลดปล่อย แต่ยังเป็น การสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง (Sexual Self-Empowerment)
ความปลอดภัย และสุขอนามัย
- ล้างมือสั้นๆ แต่ให้สะอาด ตัดเล็บให้สั้น เรียบ ไม่คม
- ใช้สารหล่อลื่น เพื่อลดการเสียดสี
- สูตรน้ำ (Water-based): ปลอดภัยกับถุงยาง และของเล่น ทำความสะอาดง่าย
- สูตรซิลิโคน: ลื่นนาน แต่ อาจทำลายของเล่นซิลิโคน
- หลีกเลี่ยงสูตรน้ำมัน กับถุงยาง เพราะทำให้ถุงยางเสื่อม
- ของเล่นทางเพศ (Sex Toys)
- เลือกวัสดุปลอดภัยต่อร่างกาย (เช่นซิลิโคนเกรดการแพทย์ แก้ว สแตนเลส)
- ทำความสะอาดก่อน–หลังใช้ ตามคำแนะนำผู้ผลิต
- ไม่แชร์ของเล่น; ถ้าจำเป็นต้องแชร์ ให้ใส่ถุงยางบนของเล่น และเปลี่ยนใหม่เมื่อเปลี่ยนคน/เปลี่ยนช่องทาง
- สำหรับการสอดใส่ทางทวารหนัก ให้เลือกของเล่นที่มี ฐานกว้าง (flared base) เพื่อป้องกันการเลื่อนไหลเข้าไปลึก
- อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สำหรับร่างกาย เช่น ของมีคม ผลิตภัณฑ์ในบ้านที่เสี่ยงแตก/บาด
- หลีกเลี่ยงเจลชาชนิดทำให้ชา/ยาชาเฉพาะที่ เพราะอาจทำให้ไม่รู้ตัวว่าเกิดแผลหรือบาดเจ็บ
ความเสี่ยงที่อาจพบ และวิธีหลีกเลี่ยง
- แผลถลอก/ระคายเคือง จากการเสียดสี → ใช้ลูบเยอะพอ พักเมื่อเจ็บ
- การติดเชื้อจากการแชร์ของเล่น → ใช้ถุงยางบนของเล่น/ทำความสะอาดถูกวิธี
- ความไวทางเพศลดลงชั่วคราว หากใช้แรงหรือรูปแบบเดิมซ้ำมาก → ปรับเทคนิค/พักบ้าง
- ปวดอุ้งเชิงกราน/ปวดหลัง จากเกร็งกล้ามเนื้อนาน → ยืดเหยียด–ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- ภาวะย้ำคิดย้ำทำ/ควบคุมไม่ได้ จนรบกวนงาน–ความสัมพันธ์ → ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเพศบำบัด
ข้อดีของการช่วยตัวเอง
- ลดความเครียด และความวิตกกังวล ระหว่างการช่วยตัวเอง ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) และโดปามีน (Dopamine) ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และอารมณ์ดีขึ้น
- ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น หลังถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่งสารโปรแลคติน (Prolactin) และออกซิโทซิน (Oxytocin) ที่มีผลต่อการผ่อนคลาย และทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
- ส่งเสริมสุขภาพทางเพศ
- สำหรับผู้ชาย: การหลั่งสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก
- สำหรับผู้หญิง: การช่วยตัวเองช่วยให้เลือดไหลเวียนไปที่อุ้งเชิงกราน กระตุ้นการทำงานของช่องคลอด และลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
- เรียนรู้ร่างกาย และความชอบทางเพศ ทำให้เข้าใจว่าร่างกายตอบสนองต่อการกระตุ้นแบบไหน ซึ่งช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่รักได้ด้วย
- เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางเพศ (Safe Sex) ไม่มีความเสี่ยงจากการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs/HIV) หรือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
ข้อเสียของการช่วยตัวเอง
- อาจเกิดการเสพติดหรือพฤติกรรมหมกมุ่น หากทำบ่อยจนกระทบการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
- ปัญหาด้านร่างกาย
- อาจเกิดการระคายเคืองของผิวหนังหรืออวัยวะเพศหากทำแรงเกินไป
- การใช้วัตถุไม่เหมาะสมอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือติดเชื้อ
- ผลกระทบทางจิตใจ บางคนอาจรู้สึกผิด อับอาย หรือไม่สบายใจ โดยเฉพาะในสังคมหรือครอบครัวที่มองว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
- อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่รัก หากเลือกช่วยตัวเองบ่อยๆ แทนการมีกิจกรรมร่วมกับคู่ อาจทำให้คู่รู้สึกห่างเหิน
การช่วยตัวเองบ่อย มีผลอย่างไร?
การช่วยตัวเองบ่อยแค่ไหน จึงถือว่ามากเกินไป ขึ้นอยู่กับ ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน มากกว่าตัวเลขตายตัว แต่มีข้อควรระวังดังนี้
- ผลต่อร่างกาย
- ถ้าทำถี่เกินไป อาจทำให้เกิดการเจ็บหรืออักเสบของอวัยวะเพศ
- รู้สึกอ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายใช้พลังงาน และสารเคมีสมองในการตอบสนองทางเพศ
- ผลต่อสมอง และพฤติกรรม
- สมองจะหลั่งสารโดปามีนทุกครั้ง ทำให้บางคนเสพติดความรู้สึกพึงพอใจนั้น และอาจต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
- ถ้าใช้สื่อลามกมากเกินไปควบคู่ไปกับการช่วยตัวเอง อาจส่งผลต่อการรับรู้เรื่องเพศ และความสัมพันธ์ในชีวิตจริง
- ผลต่อจิตใจ และอารมณ์
- อาจเกิดภาวะหมดไฟทางเพศ หรือไม่รู้สึกตื่นเต้นกับเพศสัมพันธ์จริง
- บางคนอาจมีความรู้สึกผิดหรือวิตกกังวล โดยเฉพาะถ้าสังคมรอบตัวไม่เปิดกว้าง
- ผลกระทบในทางบวก หากทำอย่างสมดุล
- ช่วยลดความตึงเครียด
- ทำให้เข้าใจตนเองทางเพศ
- ช่วยเสริมความมั่นใจ และสุขภาวะทางเพศ
ช่วยตัวเองกับสุขภาพทางเพศของ LGBTQ+
สุขภาพทางเพศ (Sexual Health) เป็นเรื่องสำคัญที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เน้นย้ำว่าต้องครอบคลุมทุกเพศทุกวัย การช่วยตัวเองมีบทบาทในด้านนี้อย่างมาก โดยเฉพาะในชุมชน LGBTQ+ ที่บางครั้งอาจเผชิญความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เช่น HIV, ซิฟิลิส, หนองใน
- การช่วยตัวเอง ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ เพราะไม่ต้องมีคู่นอน
- เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น
- ช่วยเสริมสร้างความรู้เรื่องการป้องกัน เช่น การใช้เจลหล่อลื่นที่ถูกสุขลักษณะ
มุมมองทางสังคม และวัฒนธรรม
แม้ว่าการช่วยตัวเองจะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สังคมไทย และอีกหลายประเทศยังคงมี มายาคติ (Myths) และความอับอายที่ผูกติดกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม LGBTQ+ ที่มักถูกเหมารวมว่าผิดเพศ หรือหมกมุ่นทางเพศ
การยอมรับว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ใช่แค่การยอมรับพฤติกรรมทางเพศเท่านั้น แต่ยังเป็นการ เปิดประตูสู่ความเท่าเทียม ให้ชาว LGBTQ+ สามารถพูดถึงเพศของตนเองได้อย่างไม่ถูกตีตรา
ปัจจัยที่มีผลต่อการช่วยตัวเองใน LGBTQ+
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการช่วยตัวเอง เช่น
- การยอมรับตนเอง: ผู้ที่เข้าใจ และยอมรับรสนิยมทางเพศของตนเองมีแนวโน้มช่วยตัวเองอย่างมั่นใจ
- การเข้าถึงข้อมูล: หากสังคมให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเพศ การช่วยตัวเองก็จะถูกมองในเชิงบวกมากขึ้น
- เทคโนโลยี และ Sex Toys: กลุ่ม LGBTQ+ จำนวนมากใช้ของเล่นทางเพศเพื่อเพิ่มความสุขในการช่วยตัวเอง
- ศาสนา และวัฒนธรรม: ในบางสังคมยังมีการตีความว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องบาป ส่งผลให้คน LGBTQ+ ต้องเผชิญความรู้สึกผิด
การส่งเสริมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการพูดคุยเรื่องเพศ
หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญคือการสร้างพื้นที่ให้คน LGBTQ+ ได้ พูดคุยเรื่องเพศ และการช่วยตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เช่น
- หลักสูตรการศึกษาเพศที่ครอบคลุม (Comprehensive Sex Education)
- สื่อ และบทความที่ให้ข้อมูลถูกต้องโดยไม่ตัดสิน
- ชุมชนออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์
ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสุขภาพทางเพศ และเสรีภาพที่แท้จริง
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
- ป้องกันให้ตรงจุด รักอย่างปลอดภัยในแบบ LGBTQ+
- Doxy-PEP เครื่องมือใหม่ช่วยลดความเสี่ยงโรคติดต่อในกลุ่ม LGBTQ+
การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือผิดปกติ แต่เป็นพฤติกรรมทางเพศที่เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย โดยเฉพาะในกลุ่ม LGBTQ+ การช่วยตัวเองไม่เพียงแต่เป็น วิธีการสร้างความสุขทางเพศ แต่ยังเป็น เครื่องมือยืนยันสิทธิ เสรีภาพ และการยอมรับตัวเอง
การเปิดพื้นที่ให้พูดถึงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นการ สร้าง Safe Space ที่ทำให้ชาว LGBTQ+ สามารถใช้ชีวิตอย่างภาคภูมิใจ และเข้าถึงสุขภาพทางเพศที่เท่าเทียมกับทุกคน
เอกสารอ้างอิง
- World Health Organization (WHO). Sexual health: overview & key concepts. กรอบนิยามสุขภาพทางเพศ สิทธิ และองค์ประกอบด้านความปลอดภัย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexual-health
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC). LGBTQ+ Health. ประเด็นสุขภาพเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ การป้องกัน STIs/HIV และการเข้าถึงบริการสุขภาพ. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/lgbthealth/
- Planned Parenthood. Masturbation: facts, myths, and safety. อธิบายประโยชน์ ความปลอดภัย และการดูแลสุขอนามัยขณะช่วยตัวเอง. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.plannedparenthood.org/learn/sex-pleasure-and-sexual-dysfunction/masturbation
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). เพศวิถีและสุขภาวะทางเพศ: บทความให้ความรู้สำหรับประชาชน. เนื้อหาส่งเสริมทัศนคติบวกและพื้นที่ปลอดภัยด้านเพศ. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.thaihealth.or.th
- กองอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลสุขภาพทางเพศและเพศวิถี (SRH). แนวทางความปลอดภัย การป้องกันโรค และการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.doh.go.th






