BEING GAY IS NOT EASY

//

lgbt Thai Team

beefhunt

เพราะการเปิดเผยตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย

     เกย์จะเปิดเผยตัวเองในโลกอินเทอร์เน็ตมากกว่าในโลกแห่งความจริง เพราะเกย์จะเปิดเผยตนเองในทุกพื้นที่ที่ตนเองมีความรู้สึกว่าปลอดภัย หรือไว้วางใจจากบุคคลรอบข้างในพื้นที่เหล่านั้น

เรื่องเล่าจากครูวัยใหญ่วันนี้จะพาไปดูกระบวนการ 6 ขั้นตอน ในการที่เกย์คนนึงจะเป็นเกย์ที่มีความสุขได้ เพราะการที่จะยอมรับและเปิดเผยตนเองไม่ใช่เรื่องง่าย     เกย์ไทย

ในยุค 4.0 ที่หลายคนให้ความสำคัญ เมื่อมองถึงเรื่องของกลุ่มเกย์ (ชายรักชาย) ก็พบว่า อินเทอร์เน็ตสร้างประโยชน์ให้กับชาวเกย์มากมาย เพราะการแสดงตัวตนในโลกความจริงส่วนใหญ่จะแสดงออกมาในพื้นที่เฉพาะกลุ่ม เช่น บาร์เกย์ ผับเกย์ หรือคลับเฉพาะกลุ่มเกย์ มากกว่าการแสดงออกตามห้าง หรือตามพื้นที่สาธารณะ แต่ก็ยังมีพื้นที่สาธารณะบางแห่งที่ถูกสร้างความหมายว่าเป็นพื้นที่เฉพาะของกลุ่มเกย์ เช่น จากข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่มีกลุ่มเกย์ไปมีเพศสัมพันธ์กันกลางสวนสาธารณะ หรือถ้าภาษาชาวบ้านก็เรียกว่า การเอ้าดอร์นั่นเอง

Love2test

ทั้งนี้ เกย์จะเปิดเผยตนเองในทุกที่ที่ตนเองรู้สึกว่าปลอดภัย หรือได้รับการไว้วางใจจากบุคคลรอบข้างในพื้นที่เหล่านั้น แต่ก็ยังมีกลุ่มเกย์บางกลุ่มที่จะใช้อินเทอร์เน็ตในการเปิดเผยตนเอง เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่ที่ปราศจากอคติ เพราะทุกคนสามารถปรับแต่งอัตลักษณ์ของตนเอง และเลือกแสดงอัตลักษณ์ตามที่ตนเองต้องการได้ เช่น การที่กลุ่มเกย์นิยมเล่นแอปพลิเคชั่นหาคู่ ก็ทำให้หลายคนปรับแต่งโปรไฟล์ของตนเองได้ตามต้องการเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้กิจกรรมบางอย่างทำได้ยากในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น การถามบทบาททางเพศสัมพันธ์ว่าอีกฝ่ายเป็นรุกหรือรับ เราไม่ค่อยได้ยินกันในตามสถานที่ต่าง ๆ หรือการจะถามถึงเรื่อง 18+ อื่น ๆ ที่เราจะกล้าสนทนามากขึ้นหากอยู่ในโลกของอินเทอร์เน็ต

ปัจจุบันเราสามารถเปิดเผยตนเองได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเฟซบุ๊กที่แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และมันยังสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ทางเพศของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ในอดีตผู้คนจะเปิดเผยตนเองผ่านทางวาจา หรือทางอ้อมด้วยพฤติกรรม แต่ในปัจจุบัน เกย์หลายคนเปิดเผยตนเองด้วยการตั้งค่าในส่วนของข้อมูลพื้นฐานว่า เป็นกลุ่มคนที่รักเพศเดียวกัน

มีงานวิจัยจากต่างประเทศที่จำแนกกลุ่มเกย์ที่เปิดเผยตนเองในเฟซบุ๊กไว้ 3 กลุ่มดังนี้

1. Out and proud เป็นเกย์ที่ใช้เฟซบุ๊กในการยืนยันเอกลักษณ์ทางเพศของตนเอง ใช้ภาษา ถ้อยคำ และโพสต์เนื้อหาที่ทำให้คนเข้าในเฟซบุ๊กแล้วรู้ทันทีว่าตนเองเป็นเกย์ คนกลุ่มนี้มีความสบายใจที่จะเปิดเผยตนเอง มีความเห็นว่าการเปิดเผยในเฟซบุ๊กง่ายกว่าชีวิตจริง เพราะสามารถเลี่ยงการปะทะด้วยวาจาของครอบครัว และการดูถูกของคนใกล้ชิดได้

2. Out and discreet เป็นเกย์ที่เปิดเผยตนเองอย่างระมัดระวัง กลุ่มนี้สบายใจที่จะเปิดเผยว่าตนเป็นเกย์กับเพียงแค่คนสนิทอย่างเดียว และระมัดระวังในการลงรูปภาพหรือโพสต์ที่ชี้นำว่าตนเองเป็นเกย์ แต่จะอนุญาตให้คนบางกลุ่มเห็นเพื่อความสบายใจของตนเอง

3. Facebook closeted กลุ่มนี้ไม่เปิดเผยว่าตนเองเป็นเกย์ผ่านทางเฟซบุ๊ก และแสดงออกอย่างเต็มตัวว่าตนเองเป็นชายแท้ และจะซ่อมข้อมูลทุกอย่างที่จะเชื่อมโยงว่าตนเป็นเกย์ และหากมีคนรักก็จะห้ามไม่ให้โพสต์รูปคู่ลงเฟซบุ๊กอีกด้วย

การที่เกย์สักคนจะเปิดเผยออกมาว่าตนเองเป็นเกย์ จะต้องเกิดการยอมรับในตนเองเสียก่อน โดยมีงานวิจัยที่ได้วิเคราะห์ประสบการณ์การยอมรับความเป็นเกย์เอาไว้ ผ่าน 6 กระบวนการดังนี้

1.การเริ่มสัมผัสรสนิยมทางเพศแบบเกย์ของตนเอง

   การที่ผู้ชายคนนึงจะรับรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ ในขั้นตอนนี้จะเริ่มสับสน เพราะไม่มีความรู้ความเข้าใจถึงความเป็นเกย์ และพยายามปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่เกย์ เพราะสังคมปัจจุบันรวมถึงค่านิยมไทย แต่สำหรับบางคนก็จะพบว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิงเลย

2.การก้าวไปสู่ความชัดเจนในการเป็นเกย์ของตนเอง

   ผู้ชายที่ยังไม่ชัดเจนในตนเอง จะเจอประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเกย์ เช่น การเผชิญกับอคติทางลบของสังคมที่มีต่อเกย์ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย การมีคนรักเป็นผู้ชาย ที่จะช่วยให้บุคคลนั้นชัดเจนและเข้าใจในตัวตนเกย์ของตนเองมากขึ้น

3.การยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง

   พอผ่านประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเกย์มาก็จะเกิดการยอมรับ และเข้าใจในความเป็นเกย์ของตนเอง เริ่มเข้าสังคมของกลุ่มเกย์ และเริ่มทำใจยอมรับสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่อาจส่งผลตามมามากขึ้น

4.การเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศแบบเกย์

   เมื่อยอมรับตนเองได้แล้ว ก็จะเริ่มถามกับตัวเองถึงการยอมรับของคนรอบข้าง ต้องการให้ครอบครัว สังคม เพื่อน ยอมรับในความเป็นเกย์ของตนเอง และเริ่มเปิดเผยให้ครอบครัว สังคม และเพื่อนรับรู้

5.การใช้ชีวิตของเกย์

   เมื่อสังคมรอบข้างยอมรับได้แล้ว เกย์ผู้นั้นก็จะเริ่มเข้าใจถึงข้อจำกัดในการใช้ชีวิตแบบเกย์ และเริ่มพัฒนาศักยภาพตนเองให้สอดคล้องกับชีวิตเกย์ที่เปิดเผย ซึ่งคนรอบข้างเป็นกำลังใจสำคัญในการพัฒนาดังกล่าวด้วย

6.การเกิดบูรณาภาพของบุคลิกภาพ

   การที่เกย์เปิดรับประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาเข้าสู่ตัวตน ก็จะเริ่มเกิดความลงตัว รู้สึกสบายใจที่ได้เป็นตัวของตัวเอง ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ ค้นพบความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง มีความสุขกับการเป็นเกย์ มีความทระนงในความเป็นเกย์ และไม่พยายามเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตัวจริงของตัวเอง

จากประสบการณ์ของครูวัยใหญ่ได้ผ่านกระบวนการนี้มาจนสิ้นสุดแล้ว และเมื่อมองย้อนกลับไปก็พบเจอกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่กระบวนการแรก เพราะผมเองไม่ยอมรับในความเป็นเกย์ ด้วยสังคมและค่านิยมที่ยังไม่เปิดรับ ทำให้เกิดการสับสนและปิดกั้นตัวเองมาอย่างยาวนาน ถึงขั้นลองคบกับผู้หญิงด้วยสถานะแฟน แต่ด้วยความที่มันไม่ใช่ตัวเองทำให้ต้องเลิกรากันและยอมรับ บอกกับตัวเองว่า ผมเป็นเกย์ เมื่อยอมรับได้แล้วก็ตัดสินใจที่จะบอกครอบครัว เพื่อน และเมื่อทั้งหมดให้การยอมรับ ชีวิตของผมก็เหมือนปลดล็อก สามารถเป็นตัวเองได้อย่างสบายใจ มีความสุขกับการใช้ชีวิต และไม่เคยกังวลเรื่องนี้อีกเลย

เพราะการที่เกย์ยอมรับตนเองจะมีลักษณะเป็นผู้ที่มีค่านิยมและหลักการความเชื่อมั่นของตนเอง พร้อมยืนยันความคิดความเชื่อของตนเองเมื่อเกิดกรณีขัดแย้งในความคิดเห็น และพร้อมเปลี่ยนแปลงความคิดตนเองเมื่อพบว่าไม่ถูก สามารถตัดสินใจในการกระทำของตนและยอมรับการกระทำที่ตนเองกระทำ เป็นผู้ที่อยู่กับปัจจุบัน ไม่กังวลถึงเรื่องอนาคตหรือเรื่องในอดีต มีความเชื่อมั่นว่า จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เมื่อเผชิญกับความล้มเหลวเป็นผู้ที่มีความรู้สึกว่าตนเองเท่าเทียมกับผู้อื่น  ในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกันถึงจะแตกต่างในเรื่องของความสามารถ พื้นฐานของครอบครัว เจตคติ ต่อผู้อื่น มีความรู้สึกว่าตนไม่ได้เหนือหรือด้อยกว่าผู้อื่นเป็นผู้ที่สามารถรับการชื่นชมสรรเสริญจากผู้อื่น ได้อย่างไม่รู้สึกเขิน สามารถยอมรับความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น และเห็นว่าความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความโกรธ ความรัก ความเศร้า เป็นความรู้สึกธรรมชาติ

สำหรับใครที่ยังไม่เปิดเผยตนเอง ครูวัยใหญ่ขอแนะนำให้ลองเริ่มที่เปิดใจกับตัวเองดูก่อน ยอมรับตัวเองให้ได้ แล้วจะมองว่ามันไม่ได้มีอะไรผิด เราสามารถเป็นคนดีในสังคมได้ตราบใดที่เรายังเป็นเรา เพียงแค่รสนิยมทางเพศของเราอาจไม่ตรงตามเพศเท่านั้นเอง มันไม่ใช่เรื่องผิดกับการที่เราจะไปชอบใคร แต่มันผิดที่เราไม่ยอมรับความจริงที่ตัวเองเป็น และขั้นร้ายแรงคือการหลอกตัวเองว่าชอบผู้หญิง นำไปสู่การแต่งงานและหย่าร้างในท้ายที่สุด อย่าทำร้ายคนอื่นเพียงเพราะตัวคุณไม่ยอมรับตัวเองเลยครับ

ขอบคุณ ข่าวจาก http://www.thaihealth.or.th/blog/myblog/topic/949/อ่านช้าช้า%20ไม่ต้องรีบ/1602/เรื่องเล่าจากครูใหญ่/19332/BEING%20GAY%20IS%20NOT%20EASY/