เปิดผนึก! จดหมายรักต้องห้ามของ “ทหารสงครามโลกครั้งที่ 2”

//

lgbt Thai Team

beefhunt

Table of Contents

ความรักของชายรักชาย ใครว่าเพิ่งมีในยุคนี้ จริงๆ มีมานานแล้ว แต่แค่ไม่เป็นที่ยอมรับและเปิดเผย

เหมือนกับเรื่องราวตำนานรักที่พี่แก้วหยิบยกมาวันนี้ค่ะ เมื่อจดหมายรักในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกเปิดเผยว่าเป็นจดหมายของทหารหนุ่มสองคนที่เขียนถึงกัน! เรื่องราวความรัก ความเศร้า ที่จบลงพร้อมสงครามนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันค่ะ    เกย์หาคู่

Love2test

นี่คือหนึ่งในจดหมายที่กิลเบิร์ต แบรดลีย์ ได้รับ จดหมายนี้เป็นหนึ่งในหลายร้อยฉบับที่เขาเขียนโต้ตอบกับคนรักปริศนา ที่ใช้ตัวย่อว่า G ซึ่งต่อมาพบว่า G ก็คือ กอร์ดอน โบว์เชอร์ ที่เป็นผู้ชาย!

จุดเริ่มต้นของความรักต้องห้าม

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แบรดลีย์เป็นทหารเกณฑ์ที่พยายามจะแกล้งเป็นโรคลมบ้าหมูเพื่อที่จะหนีทหาร แต่อุบายนี้ไม่ได้ผล ในปี 1939 เขาถูกส่งไปประจำการที่ Park Hall Camp Oswestry, Shropshire เพื่อฝึกเป็นมือปืนต่อต้านอากาศยาน ในขณะที่คนรักของเขา กอร์ดอน โบว์เชอร์ ชายผู้มีฐานะร่ำรวย มีกิจการขนส่งทางเรือ และเป็นเจ้าของไร่ชา เขาก็ถูกส่งไปเป็นทหารราบ และไปประจำการที่ชายแดน

“จะดีแค่ไหนนะ ถ้าในอนาคตจดหมายของเราได้ถูกเผยแพร่ออกไป ตอนนั้นโลกคงจะได้รับรู้สักทีว่าเรารักกันแค่ไหน”

เชื่อมความห่างไกลด้วยจดหมายรัก

ด้วยความห่างไกลกัน ทั้งสองจึงตัดสินใจส่งจดหมายแทนความรักและความคิดถึงให้กันเรื่อยมา แต่ก็นั่นแหละค่ะ ความรักของชายรักชายในยุคนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ การเป็นเกย์ถือเป็นความผิดทางอาญาที่อาจติดคุกได้ด้วยซ้ำ ความรักของทั้งคู่จึงต้องดำเนินไปอย่างหลบๆ ซ่อนๆ จดหมายรักที่แบรดลีย์ได้รับ จึงมีแต่ตัวย่อ G ที่รู้กันสองคนเท่านั้น

จดหมายรักถูกส่งหากันมาตลอดหลายปีท่ามกลางสงคราม จนกระทั่งจดหมายฉบับหนึ่ง เผยให้เห็นข้อความของโบว์เชอร์ ที่เรียกร้องให้แบรดลีย์ทำลายจดหมายทั้งหมดทิ้ง “ขอร้องล่ะ นี่เรื่องคอขาดบาดตาย คุณช่วยทำลายจดหมายทั้งหมดที ได้โปรดเถอะนะที่รัก ทำเพื่อผมเถอะนะ”

“ลองจินตนาการถึงวันที่สงครามสงบแล้วเราได้อยู่ด้วยกันสิ”

ตอนจบที่แสนเศร้า

หลายคนที่อ่านถึงตรงนี้ คงจะอยากเอาใจช่วยให้ทั้งคู่ลงเอยกันได้ แต่เรื่องจริงกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เมื่อแบรดลีย์ถูกส่งตัวไปปฏิบัติภารกิจที่สก็อตแลนด์ เขาก็พบรักกับชายอื่นที่นั่น ซ้ำยังเขียนจดหมายเล่าถึงความรักครั้งใหม่ให้โบว์เชอร์ฟังด้วย โบว์เชอร์เองก็ดูจะเข้าใจดี และเขียนตอบกลับว่า ผมเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงรักคุณ…เหมือนที่ผมรัก จดหมายรักของทั้งคู่ถูกส่งหากันจนกระทั่งหยุดลงในปี 1945 ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตและครอบครัวใหม่ และความรักครั้งเก่านี้ก็ถูกเก็บเป็นความทรงจำของทั้งคู่มาหลายสิบปี

เรื่องราวต้องห้ามถูกเปิดเผยเมื่อแบรดลีย์จากไป

แบรดลีย์เสียชีวิตในปี 2008 มีบริษัทขนย้ายของเข้ามาพบจดหมายพวกนี้ในบ้าน จดหมายถูกส่งต่อและขายไปยังที่อื่น โดยสุดท้ายแล้ว ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ Oswestry Town ก็ไปตามซื้อกลับมาได้จาก eBay เพราะต้องการรวบรวมของที่เป็นตำนานเมืองทั้งหมดกลับมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์

ตอนแรกที่พวกเขาเห็นจดหมาย ก็คิดว่าเป็นจดหมายรักจากแฟนสาว แต่เมื่อพวกเขานำมาพิจารณาดีๆ ก่อนจะจัดแสดง ก็พบความจริงที่ชวนอึ้งว่า แฟนสาวที่เข้าใจนั้น ที่จริงเป็นแฟนหนุ่มต่างหาก! และจดหมายพวกนี้ก็กลายเป็นตำนานความรักชายรักชายท่ามกลางไฟสงครามที่มีค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุด และยังคงจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นี้ต่อไป

จดหมายที่ถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ถึงสุดท้ายทั้งคู่จะไม่ได้รักกันตราบนานเท่านานแบบที่ตั้งใจไว้ แต่ก็มีความทรงจำดีๆ ให้แก่กัน แถมสังคมยังยอมรับมากขึ้นด้วย น้องๆ คนไหนที่เป็นชายรักชาย ดูตัวอย่างไว้ได้ค่ะ ถึงแม้คนรอบข้างอาจไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็นในตอนนี้ แต่เชื่อมั่นในความรักและทำดีต่อไป สักวันทุกคนจะยอมรับเอง ว่าแต่ ใครอ่านแล้วประทับใจประโยคในจดหมายไหนบ้าง มาคุยกัน

ขอบคุณ ข่าวจาก   https://www.dek-d.com/loveroom/47415/