พูดคุยกับเน็ตไอดอลขวัญใจเก้งกวาง “ไฮแจ๊ค เหมังกร” จากผู้ใช้ร่างกายเปลืองกับภาพหวิว คาว และฉาว สู่วงการนักธุรกิจ
หากพูดถึง “เน็ตไอดอล” สมัยยุคแรกเริ่มย้อนวัยไปยุคที่โซเชียลยังไม่ค่อยแพร่หลาย ชื่อแรกๆ ที่จะนึกถึงก็คือดาราสาว เต้ย-จรินทร์พร, บอลลูน-พินทุ์สุดา เป็นต้น ซึ่งถูกใจเหล่าบรรดาคุณผู้ชายเอามากๆ แต่หากเป็นเน็ตไอดอลที่ถูกใจชาวสีม่วงในยุคนั้น หลายๆ คนจะนึกถึง “ไฮแจ๊ค เหมังกร” เน็ตไอดอลเกย์ยุคแรกๆ ที่เป็นพิธีกรรายการเรื่องเพศสุดสยิว แถมยังถ่ายหวิวทำเอาใจเก้งกวางทั้งหลายสั่นสะท้าน นอกจากนี้ยังมีข่าวฉาวออกมามากมาย เพราะด้วยลุคที่เซ็กซี่เกินไปของเจ้าตัวนั่นเอง เกย์ไทยแลนด์
กาลเวลาผ่านไปนอกจากจะทำงานในวงการบันเทิงแล้ว ล่าสุดก็ขอเบรกความเซ็กซี่ของตัวเอง หันมาทำงานด้านธุรกิจอีกด้วย “เดลินิวส์ออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “ไฮแจ๊ค” แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เลยจะพาไปย้อนวันวานเรื่องราวจุดเริ่มต้นของเจ้าตัว ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว หลายเรื่องคาวและฉาว จนมาสู่ “ไฮแจ๊คที่เป็นเจ้าของธุรกิจแล้วในตอนนี้”
จุดเริ่มต้นในฐานะ “ไอดอลขวัญใจเก้งกวาง”
สมัยก่อน มีรูปเราไปลงในเว็บเด็กดีดอทคอม เป็นสายเซ็กซี่ เมื่อก่อนเราผอมมาก หัวโต อกหักตลอด ไปทำงานออฟฟิศที่หนึ่งอยู่ข้างๆ ฟิตเนส เพื่อนที่ทำงานก็ชวนเล่นฟิตเนส เมื่อก่อนเราไม่เคยเล่นเลย พอเริ่มเล่น เห็นกล้าม เห็นอะไรบ้าง ก็ถอดถ่ายภาพลง hi5 ตอนนั้นมีคนติดตามพอสมควร เป็นยอดวิวประมาณ 2 แสน เพื่อนก็ชวนเล่นเฟซบุ๊กก็ลองเล่นได้สักพักมีคนชวนไปเล่นซีรี่ส์ช่องทีวีดาวเทียม จากนั้นก็มีคนติดต่อส่งข้อความมาชวนทำพิธีกรรายการเกี่ยวกับเพศที่สาม
ตอนนั้นไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า เพราะทำงานออฟฟิศมาตลอด แต่ก็ลองดู พิธีกรมี 3 คน เราก็โดนแย่งพูดหมดเลย พอสักพัก มีเพื่อนในเฟซบุ๊กติดต่อมาว่ามีน้องคนหนึ่งอยากคุยด้วย เขาเรียนสาขาภาพยนตร์มา และระดมความคิดกันจนได้ทำรายการเรื่องบนเตียง รายการที่คุยกันเรื่องเพศ ซึ่งหลังจากทำได้ประมาณ 1 ปี หลังทำในยูทูปมา เราอยากให้รายการอิมแพคมากขึ้น ลงทุนซื้อเวลา ปรากฎช่องๆ นั้นที่ซื้อเวลาก็ให้ทำเป็นไทม์แชร์ริ่ง และราวๆ ปี มีช่องติดต่อมา 4 ช่อง เราบอกว่าอยู่กับอีกช่องนี้ไปแล้ว เลยเปลี่ยนชื่อรายการอื่นๆ คอนเซ็ปต์ใกล้เคียงกัน รูปแบบหวือหวา แต่อาจจะน้อยกว่าเรื่องบนเตียง
สุดฮือฮา รับบทบาทในหนังเกย์อีโรติค!!
ตอนแรกไม่รู้ ทางผู้กำกับติดต่อมา เขาบอกว่าเป็นอีโรติค นักแสดงร่วมด้วยมาจากต่างประเทศ จึงไปแสดงแล้วเสียงตอบรับจากแฟนคลับทั้งอินโดนิเซีย พม่า กัมพูชา ส่งข้อความมาเยอะมาก หลังจากนั้นทิศทางเราก็ไปทิศทางอื่นแทน เล่นหนัง ละครจักรๆ วงศ์ๆ การถ่ายทำตอนนั้นบอกเลยว่ายาก ทีมงานผู้หญิง ผู้ชายเต็มไปหมด หนังอีโรติคมีพล็อตเรื่องอาร์ตๆ หน่อย บางคนอาจไปร่วมกับหนังอะไร (หัวเราะ) ซึ่งนั้นไม่มีเรื่องราวนะ ยากมากตรงที่เราไปเป็นคนอื่น แล้วทีมงานเยอะมาก ให้เราอินโดยมีคนอยู่เยอะๆ เราก็ถือว่ามือใหม่ แต่คนอื่นๆ มืออาชีพสบายๆ
ความตั้งใจ พยายาม สู่หนทางความสำเร็จ
การถ่ายทำละครยาก เพราะออกต่างจังหวัดอยู่ที่กองถ่ายนานมาก พวกงานแสดง เราเป็นคนชัดเจนเรื่องเพศที่สาม ล่าสุดมีภาพยนตร์ติดต่อให้เป็นพระเอก เราบอกอย่าเลยเพราะว่าเราชัดเจนเรื่องตัวเองอยู่แล้ว ขอเป็นพวกโรคจิตหื่นๆ ดีกว่า การแสดงก็มีเรียนการแสดงบ้าง เพราะว่าการแสดงเป็นคนอื่นยาก แต่พิธีกรเป็นตัวเราเอง ใส่ลูกเล่นเอง เราอายก็อายจริงๆ หื่นจริง มีความเป็นตัวเองสูง แต่ก่อนจับทิศทางตัวเองไม่ถูกว่าเหมาะกับอะไร เราเพิ่งออกกำลังกายใหม่ๆ เดี๋ยวนี้มีที่เล่นออกกำลังกายเยอะ มีคนแนะนำก็เล่นแบบงูๆ ปลาๆ เขาชวนไปก็ไป เราพยายามคิดว่าอยากทำหรือเปล่า ที่เหลือก็ไปฝึกเอาทุกอย่าง ไม่เคยเป็นพิธีกรมาก่อน เป็นพนักงานออฟฟิศ
ความฉาวทำให้ดัง??
จริๆ เคยปรับทิศทางตัวเอง ไปในทิศทางให้คนอื่นชอบแล้ว ให้ดูดีหน่อย เราว่าเรื่องเซ็กส์หรือเพศมันติดตัวทุกคน แต่พอไปเข้าวัดทำบุญ คนไม่เชื่อไง เปิดหนังสือสวดมนต์คนก็ไม่เชื่อ แต่พอเราขยำทิชชู่เปล่าๆ คนก็เชื่อ เราก็สร้างสิ่งสมมุติให้คนเชื่อ และมีงานต่อๆ มา บทบาทคือสิ่งสมมุติขึ้นมาให้ทำงานต่อไป ตัวเราป็นยังไงรู้กับตัวเองอยู่แล้ว ภาพลักษณ์คือทำยังไงให้คนเชื่อ เพื่อดำเนินงานธุรกิจต่อไป ตัวตนของเราเป็นคนมีครบรสเลย ถ้าเกิดทำงานก็ซีเรียสเรื่องงาน แคร์คนอื่น ก็เป็นคนทะลึ่ง แต่ทะลึ่งแบบคำพูดมากกว่า จริงๆ ขี้อาย สมัยก่อนจะเป็นคนชอบคนโน้นคนนี้ เห็นคนอื่นก็ชอบ แต่ก็ไม่กล้า ไม่มีความมั่นใจในตนเอง ให้ไปบอกแบบชอบอ่ะไม่กล้า จะจีบก็ไม่กล้า แต่แสดงออกมาให้ตลก คนอื่นหื่นตามทำได้ (หัวเราะ)
ไม่ใช่เน็ตไอดอล ไม่มีใครเกิดมาเป็นต้นแบบของใคร
ต้องย้อนกลับไปนิดนึงว่า… ไม่มีใครเกิดมาเป็นต้นแบบใครทั้งหมด คนนี้ทำอันนี้ดีเราก็ดึงมาอย่างนึง คนนี้แบบนี้ดีก็ดึงมาอีกอย่างนึง เราไม่ได้เกิดมาเป็นต้นแบบของใคร หรือเป็นเน็ตไอดลออย่างที่เขาเรียก แต่ว่าก็อยากให้มองมุมที่ดีมากกว่า อะไรไม่ดีก็มองผ่านไป เราก็เป็นคนครบรสอยู่แล้ว สีเทา สนุกสนาน ใช้ชีวิตกับเพื่อนเต็มที่ แต่สมัยก่อนการเป็น “เน็ตไอดอล” ไม่ได้ง่ายแบบข้ามคืน เต้นคลิปนึง ด่าคนคลิปนึง แต่ก่อนกล้องโทรศัพท์มือถือก็ไม่มีแอพแต่งรูป เวลาถ่ายก็เบลอๆ มัวๆ เราก็ใช้กล้องดิจิตอลต่อสายเข้าคอม แล้วดึงเข้าเฟซบุ๊ก โซเชียลต่างๆ ไม่มีสถานที่สวยๆ ให้เราไปเช็คอิน ดูว่าคนนี้เป็นไอดอลใช้ชีวิตดี เราก็ถ่ายงูๆ ปลาๆ ข้างๆ ทาง
จากไอดอลชาวเกย์ หันเหมาทำงานธุรกิจ
กำลังจะทำรายแรกของไทย คือนวดปลูกผม สำหรับคนผมบาง สมัยก่อนเราหัวเถิก ปัจจุบันนี้ปลูกแล้ว ย้ายเซลล์จากหลังมาหน้า แต่ราคาสูงนิดนึง เราก็ดูว่าคนที่ยังไม่มีงบแบบหลักแสน เราก็นำมานวดกดจุดใช้สมุนไพร 1 เดือนผมก็เริ่มขึ้นแล้ว น่าจะเปิดประมาณต้นปีหน้า (2561) แถวรามอินทรา เรารู้จักจากอาจารย์ท่านนึง เริ่มต้นจากการใช้ แต่ก่อนเราทำผมบ่อย ผมก็ร่วง แม้กระทั่งตอนปลูกแล้วก็ร่วง เราไม่อยากใช้เคมีแล้ว พอรู้จักอาจารย์ท่านนึง ผลิตสมุนไพรไทย เราก็เรียนรู้และจะนำมาเปิดที่แรกในไทย มีอย. ปลอดภัย ชื่อคลินิกบ้านรักษ์สมุนไพร (สมุนไพรสร้างชาติ) ครับ
แง้มหัวใจ “ไฮแจ๊ค” ยืนยันจากนี้ไม่ขอมีแฟนตลอดชีวิต
ประมาณ 3-4 ปี ไม่มีหัวใจไปเลย เพราะว่าพอเราอกหักซ้ำแล้วซ้ำอีก บางคนบอกว่า ซ้ำบ่อยๆ จะชิน ปรับตัวได้ แต่เราไม่เป็นยังนั้น อกหักซ้ำๆ จนรู้สึกกลัว…กลัวการเริ่มต้นใหม่ ต้องกลับมาจุดเดิม บางคนบอกว่าครั้งที่แล้วผ่านมาก็ยังผ่านมาได้เลย เราสอนคนอื่นสอนได้ แต่ตัวเองทำไม่ได้ จึงคิดว่าอยู่ตรงนี้มีความสุขแล้ว เวลามีคนเข้ามา คุยแบบกุ๊กกิ๊กๆ จะบอกเขาว่าเราเป็นคนไม่คิดจะมีแฟนตลอดไปอยู่แล้ว พอเข้ามาเหมือนโดนแย่งเวลาไป เหมือนจะขับรถไปที่นึง อยากจะแวะไปที่นึงก่อนก็เลี้ยวได้เลย แต่ถ้ามีแฟนก็ต้องไปตามนัดแฟน เลยคิดว่าอยู่แบบนี้มีความสุขไม่ใช่หรอ ทำไมต้องหาอะไรเข้ามา ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไป เรามีความรักส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้อง เพื่อน ครอบครัวที่บ้าน หลานๆ
พอหอมปากปอมคอกับการพูดคุยกับ “หนุ่มไฮแจ๊ค เหมังกร” ที่ทำให้ได้เห็นมุมมองตัวตนจริงๆ ของเจ้าตัว นอกจากการเป็น “ไอดอลเกย์” สุดเซ็กซี่แล้ว ยังมีความมุ่งมานะและพยายามตั้งใจทำงานจนประสบความสำเร็จ หากใครอยากติดตามทำความรู้จัก “หนุ่มไฮแจ๊ค” ก็สามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม @iam_hijack…บอกได้เลยว่าการมองเพียงแค่เปลือกนอกนั้นไม่ได้จริงๆ รวมถึง คลินิกบ้านรักษ์สมุนไพร ได้เลยจ้า
ขอบคุณ ข่าวจาก https://www.dailynews.co.th/article/600166