จากกรณีที่คู่หญิงรักหญิง ที่ชื่อเมลาเนีย และคริส ถูกทำร้ายบนรถโดยสารประจำทางในกรุงลอนดอนจนอยู่ในสภาพเลือดโชก

หลังจากที่ทั้ง 2 คนแสดงความรักด้วยการจูบกันบนรถเมล์ จนทำให้วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเข้ามาก่อกวน ใช้วาจาหยาบคาย บังคับให้ทั้งคู่จูบกันอีก และทำร้ายด้วยการชกต่อย จนทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บ และยังถูกฉกชิงสิ่งของไปด้วย ล่าสุด ตำรวจได้จับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้แล้ว พบว่าเป็นผู้เยาว์จำนวน 5 คน

หลังจากที่เมลานีโพสต์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเฟซบุ๊ค Melania Ps สำนักข่าวทั่วโลกต่างรายงานข่าวกันอย่างพร้อมเพรียง สร้างความไม่พอใจไปทั่วโลก ผู้ที่เข้ามาอ่านข่าวในเฟซบุ๊คของสำนักข่าวต่างๆ แสดงอาการเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่า ในประเทศที่เจริญแล้วยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น  เกย์ไทย์แลนด์

จากการตรวจสอบโดยทีมข่าวโพสต์ทูเดย์พบว่า กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ถือเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรกับกลุ่มความหลากหลายทางเพศมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก จากการจัดอันดับดัชนีเมืองสีรุ้ง หรือ Rainbow Cities Index โดย Ampersand พบว่า ลอนดอนเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรกับกลุ่มความหลากหลายทางเพศมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ปัจจัยหลักๆ มากจากแหล่งสถานบันเทิง, โอกาสในการทำงาน และการยอมรับในระดับโลกเรืองเสรีภาพทางเพศ และก่อนหน้านี้ลอนดอนยังดำรงตำแหน่งเมืองที่เป็นมิตรกับ LGBT ที่สุดอันดับ 5 ของโลก

ในการจัดอันดับดัชนีการท่องเที่ยวเกย์ หรือ SPARTACUS Gay Travel Index 2019 พบว่า ประเทศสหราชอาณาจักร มีระดับความเป็นมิตรกับกลุ่มความหลากหลายทางเพศอยู่ที่ 4 ได้คะแนน 9 เต็ม 10 จัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นมิตรมาก ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 47 ได้คะแนนเพียง 2 เต็ม 10 ถือว่าอยู่ระดับกลางจากทั้งหมด 197 ประเทศ

ปัจจัยในการจัดอันดับโดย SPARTACUS พิจารณาจากการผ่านกฎหมายต่อต้านการเหยียดเพศ, การจดทะเบียนสมรส, การอนุญาตให้รับบุตรบุญธรรม, ท่าทีของกลุ่มศาสนา, ท่าทีไม่เป็นมิตรของคนในสังคม, การกวาดล้างกลุ่มความหลากหลายทางเพศ การฆาตกรรม และโทษประหารผู้มีรสนิยมหลากหลายทางเพศ

จะเห็นได้ว่าการจัดอันดับโดย SPARTACUS มีความครอบคลุมทั้งด้านการงาน การติดต่อราชการ และสังคม และสหราชราชอาณาจักรถือเป็นประเทศหนึ่งซึ่งปลอดภัยสำหรับกลุ่มหลากหลายเพศเป็นอย่างมาก โดยได้คะแนน 0 ในส่วนที่เกี่ยวกับท่าทีของคนในสังคม ขณะประเทศไทยได้คะแนน -1 ในด้านท่าทีของคนในสังคม

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจโดย www.stonewall.org.uk ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสิทธิกลุ่มหลากหลายทางเพศ กลับพบว่า สถานการณ์ในอังกฤษไม่ถือว่าเป็นมิตรมากนัก และมีกลุ่ม LGBT ถูกทำร้ายบ่อยครั้ง

• LGBT 1 ใน 5 คน (21%) เคยประสบกับอาชญากรรมหรือเหตุการณ์ที่เกิดจากความเกลียดชังเนื่องจากรสนิยมทางเพศและ/หรืออัตลักษณ์ทางเพศในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
• คนข้ามเพศ 2 ใน 5 คน (41%) เคยประสบอาชญากรรมความเกลียดชังหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และ 1 ใน 6 คนของ LGB ที่ไม่ได้เป็นทรานส์ (16%) มีประสบการณ์อาชญากรรมความเกลียดชัง หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากรสนิยมทางเพศของพวกเขาในช่วงเวลาเดียวกัน
• จำนวนเลสเบี้ยน, เกย์ และไบเซ็กชวลที่ประสบกับอาชญากรรมหรือความเกลียดชังในปีที่ผ่านมาเนื่องจากรสนิยมทางเพศของพวกเขาเพิ่มขึ้น 78% จาก 9% ในปี 2556
• มากกว่า 1 ใน 3 ของประชากร LGBT (36%) กล่าวว่าพวกเขาไม่รู้สึกสบายใจที่จะเดินไปตามถนนในขณะที่จับมือกับคู่ของพวกเขา เพิ่มขึ้นเป็น 3 ใน 5 คนในกลุ่เกย์ (58%)

“They started beating me, I was bleeding all over – I was really bleeding”

Melania Geymonat tells @BBCMarkMardell on #BBCwato about how she and her girlfriend were attacked after a group of men demanded they kiss. pic.twitter.com/E3kRVLxQtA

— The World at One (@BBCWorldatOne) June 7, 2019

ขอบคุณ ข่าวจาก https://www.posttoday.com/world/591606