โดยเฉพาะรสนิยมรักร่วมเพศ ที่ปัจจุบันได้รับความยอมรับอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานได้อย่างถูกกฎหมายในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งการแข่งขันกีฬาเพื่อชาวเกย์ ที่สนุกสุดเหวี่ยงในชื่อว่า “เกย์เกมส์”

เกย์เกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่จัดขึ้นเพื่อให้ชาวรักร่วมเพศ ทั้ง เกย์ เลสเบี้ยน ไบเซ็กชวล ทรานส์เจนเดอร์ หรือที่เรียกรวมกันว่า “แอลจีบีที” มาใช้เวลาร่วมกัน แข่งขันทุก 4 ปีครั้ง เหมือนโอลิมปิกเกมส์ แข่งกีฬาสากลอย่างแบดมินตัน บาสเกตบอล ยิงธนู ฟุตบอล ฯลฯ แต่ไม่ได้เน้นผลการแข่งขันเอาเป็นเอาตาย เพราะต้องการให้เป็นเวทีในการแสดงออกและเปิดโอกาสให้ชาวรักร่วมเพศได้มาทำ กิจกรรมร่วมกัน ไม่มีการคัดเลือก ไม่สนว่าผู้เข้าร่วมเป็นเพศไหน ขอแค่อยากจะมาร่วมเป็นพอ        เกย์ท่องเที่ยว

“จุดประสงค์ของสมาพันธ์แห่งเกย์เกมส์ เพื่ออุปถัมภ์และเพิ่มในการเอาใจใส่ตัวเองของเลสเบี้ยนและเกย์ทั่วโลกและก่อ ให้เกิดความเอาใจใส่และเข้าใจต่อผู้ที่ไม่ใช่เกย์ทั่วโลก จากการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศและกิจกรรมทางวัฒนธรรม ที่จัดขึ้นในทุก 4 ปี และใช้ชื่อว่า เกย์เกมส์” นี่คือถ้อยแถลงของสมาพันธ์ถึงจุดประสงค์ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของชาวแอลจีบีที

การแข่งขันครั้งต่อๆ มาก็ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นหลัก ปี 1998 ถึงจะก้าวออกมาจัดที่ทวีปยุโรป ซึ่งกรุงอัมสเตอร์ดามของเนเธอร์แลนด์รับหน้าเสื่อ ปี 2002 โยกมาที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จนถึงปัจจุบันก็ยังคงวนไปวนมาระหว่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป สำหรับครั้งที่จะถึงนี้เป็นหน้าที่ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะจัดขึ้นในปีหน้า

เกย์เกมส์เป็นหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่มีการแย่งชิงการ เป็นเจ้าภาพกันดุเดือดไม่ต่างจากโอลิมปิกเกมส์ โดยเฉพาะหลายเมืองในสหรัฐฯต่างเสนอตัวกันอย่างเอิกเกริก แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ในอีก 5 ปีข้างหน้า เกย์เกมส์กำลังเดินทางมาจัดในทวีปเอเชียเป็นครั้งแรก  ไม่กี่วันก่อนสมาพันธ์แห่งเกย์เกมส์ได้เลือกให้ฮ่องกง เป็นเจ้าภาพในปี 2022 เป็นครั้งที่สองที่มหกรรมกีฬาสีรุ้งออกจากทวีปยุโรป ออสเตรเลียและอเมริกาเหนือ ฮ่องกงสามารถชนะกัวดาลาฮาร่า ของเม็กซิโก และกรุงวอชิงตัน ดีซี ในรอบสุดท้ายเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีอีก 14 เมืองที่พ่ายแพ้ไปในรอบก่อนหน้านั้น

อัลเฟรด ชาน ประธานคณะกรรมาธิการสร้างความเท่าเทียมทางโอกาสของฮ่องกง เปิดใจหลังรู้ว่าบ้านเกิดของตัวเองชนะการบิดในครั้งนี้ว่า เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของฮ่องกงในการจะได้เป็นเจ้าภาพเกมระดับโลก และเป็นก้าวอันยิ่งใหญ่ของการยอมรับความแตกต่างในสังคม ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็ยังมีความไม่แฮปปี้ต่อชัยชนะครั้งนี้อยู่บ้าง

เอ็ดดี้ เหลียง ชาวฮ่องกงที่เคยไปร่วมแข่งขันเกย์เกมส์มาแล้ว เมื่อ 15 ปีก่อนที่ซิดนีย์ บอกว่า “การ เป็นเจ้าภาพเกย์เกมส์ของฮ่องกงไม่ใช่อาชญากรรมหรือเรื่องแย่อะไรในความคิด ของผม แต่สำหรับคนอื่นๆ ก็คงจะมีบ้าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงต้องลุกขึ้นสู้”