แม้สังคมในปัจจุบันจะเปิดกว้างเรื่องของเพศที่สามอยู่บ้าง แต่สำหรับในหลายๆ ประเทศก็ยังไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเสรี
เมื่อย้อนกลับมาที่เมืองไทย ระบบครอบครัวที่ค่อนข้างหัวโบราณนั้นยังคงให้ลูกชายยึดตามขนบประเพณีอันดีงามไว้ด้วยการแต่งงานกับหญิงสาวและมีทายาทสืบทอดตระกูลต่อไป เกย์ไทยแลนด์
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ มีเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์เป็นอย่างมากถึงแบบเรียนสุขศึกษาเล่มหนึ่ง ที่แนะนำไปในเรื่องของ “กลุ่มหลงเพศ เชื่อว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมหรืออาจเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนของแม่ หรือการเลี้ยงดูเด็กในด้านเพศที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดการรับรู้ทางเพศของเด็กผิดปกติ ไปจนเกิดการหลงเพศได้” และพูดถึง “การเบี่ยงเบนทางเพศ เป็นความผิดปกติในคนที่มีความรู้สึกทางเพศ ทัศนคติ ตลอดจนพฤติกรรมทางเพศที่แสดงออกไปอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ เมื่อสอบถามผู้ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้วจึงได้ทราบว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พบเห็นว่ามีเนื้อหาเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และคงจะต้องรอไปอีกหลายปี กว่าที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะยอมแก้ไขจาก “อคติ” ให้เป็น “ความเข้าใจ” เสียที
สิ่งที่ชักจูงให้คิดว่าการรักเพศเดียวกันผิดปกตินั้นมาจาก
- “สื่อ” นำเสนอความรักต่างเพศเพียงด้านเดียว โดยมุ่งประเด็นที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดปกติ
- ยังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม “ค่านิยม” ของคนทั่วไปมองว่าความรักของ ชายและหญิงเท่านั้นที่ถูกต้อง
- ตำราเรียนใช้คำว่า “เบี่ยงเบนทางเพศ” เสมือนเป็นการชี้นำให้เข้าใจผิดว่าความรักของเพศที่สามเป็นเรื่องผิดปกติ
เราเชื่อว่าเด็กที่เข้าสู่มัธยมต้นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ถ้าหากได้รับการปลูกฝังข้อมูลแบบผิดๆ แทนที่การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เขาก็จะโตไปแบบผิดๆ จนสายไปที่จะแก้ไขอย่างแน่นอน
ขอบคุณ ข่าวจาก http://stopbullying.lovecarestation.com/articles-news/articles/love-in-same-sex-relationships/