วิถีทางเพศในญี่ปุ่น ที่ไม่ใช่มีเพียง “เพศหญิง” หรือ “เพศชาย” แต่ต้องการให้เพิ่ม “ข้ามเพศ” เริ่มมีการเคลื่อนไหวถี่ขึ้น
อย่างเมื่อเดือนกุมภาฯ มีคู่เกย์ 13 คู่ยื่นฟ้องศาลอย่างน้อยๆ 4 เมือง อ้างว่ารัฐบาลกำลังละเมิดสิทธิของพลเมืองที่ไม่ยอมให้พวกเขาแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เช่นเดียวกับ มร.ทาคาชูอิโตะ ยูซูอิ เกษตรกรวัย 45 ปี ซึ่งอยู่กับคนรักและลูกเลี้ยง ที่ จ.โอกายามา ภาคตะวันตกของประเทศ ที่ออกมาเผยต่อสังคมว่าตัวเองเป็น “บุคคลข้ามเพศ” เมื่อ 5 ปีก่อน ก็ต่อสู้คดีในชั้นศาลมานาน 3 ปีแล้วแพ้ เพราะ ก.ม.ญี่ปุ่นระบุ บุคคลที่ต้องการจะเปลี่ยนเพศใหม่ในเอกสารราชการต้องทำหมันและแปลงเพศ เพื่อให้มีองค์ประกอบของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ตามเพศใหม่ที่ระบุ เกย์หาเพื่อน
แม้ว่าศาลสูงไม่รับคำร้องของ มร.ยูซูอิที่ว่า การกำหนดให้ระบุสถานภาพทางเพศขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะเขาไม่ต้องการผ่าตัด จึงขอให้ศาลรับรองเพศใหม่ของเขา แต่ศาลก็เห็นว่ากระทบต่อเสรีภาพกับ “คนข้ามเพศ”
คือ ภายใต้กฎหมายพิเศษ 2003 ว่าด้วยสถานภาพทางเพศของตัวบุคคลกับสภาพทางเพศที่ผิดปกติ บุคคลข้ามเพศจะต้องถูกวินิจฉัยก่อนว่าประสบความยุ่งยากอันสัมพันธ์ขัดแย้งกันระหว่างอัตลักษณ์ตัวตนกับเพศที่ระบุไว้
นายยูโกะ ฮิกาชิ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพศและสุขภาพทางเพศ ประจำมหาวิทยาลัยจังหวัดโอซากา เสริมว่า การหาคลินิกสักแห่งที่จะวินิจฉัยตามข้อกฎหมายกับภาวะที่ผิดปกติทางเพศไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะนอกกรุงโตเกียว กระบวนการขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบุเพศในญี่ปุ่นใช้เวลานาน ราคาแพงและมีการก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว เป็นเรื่องที่ผิดสำหรับรัฐบาลที่จะบอกว่าคุณต้องทำอย่างไรกับร่างกายของคุณ นี่เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน สิทธิทางเพศ สุขภาพด้านภาวะสืบพันธุ์ ซึ่งมันขัดแย้งไปทุกอย่าง
ด้าน สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ก็ประณาม ก.ม.ญี่ปุ่นว่า การกำหนดให้ผู้อื่นไปทำหมันเพื่อเปลี่ยนสภาพเพศได้อย่างถูกต้องนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และในหลายๆประเทศก็ยอมรับเพศสภาพบนพื้นฐานการระบุด้วยตัวเองมากกว่าผ่านใบรับรองแพทย์มากขึ้น ต่างกับ ก.ม.ญี่ปุ่นต้องให้วินิจฉัยว่า จิตไม่ปกติเพราะเป็นคนข้ามเพศ ซึ่ง องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เองก็ยกเลิกระบุว่าเป็นคนจิตป่วยไปแล้วเมื่อปีกลาย โดยให้ไปอยู่ในหมวดหมู่เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศแทน…
ขอบคุณ ข่าวจาก https://www.thairath.co.th/news/foreign/1552760