สหรัฐฯ-วิจารณ์กรณีกีดกันนักวิ่งข้ามเพศร่วมงาน”บอสตัน มาราธอน”

//

lgbt Thai Team

beefhunt

บอสตัน มาราธอน ชี้แจงนโยบายสำหรับนักวิ่งข้ามเพศที่ต้องการเข้าร่วมการแข่งขัน

ด้านนักข่าวชาวอเมริกันออกมาวิจารณ์ถึงนโยบายใหม่ของบอสตันมาราธอนว่า ผู้หญิงแท้ จะไม่มีวันชนะมาราธอนได้ ขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของสมาคมกีฬาแห่งบอสตัน ชี้ปีนี้ไม่ได้เป็นปีแรกที่มีนักกีฬาข้ามเพศร่วมลงแข่งขัน
เริ่มกันแล้วสำหรับงาน“Boston Marathon 2018″นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร โดยการแข่งขันวิ่งมาราธอนนี้ จะจัดขึ้น ตรงกับ“วันรักชาติ”ซึ่งเป็นวันหยุดนักตฤกษ์ที่สำคัญของสหรัฐฯ ทำให้มีนักวิ่งทั้งจากในประเทศ รวมไปถึง ชาวต่างชาติ เข้าร่วมการแข่งขัน เป็นจำนวนมาก             เกย์ไทย
โดยผู้ชนะในปีนี้
  • ฝ่ายชาย ตกเป็นของ ยูกิ คาวิอุชิ จากญี่ปุ่น ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง 15 นาที
  • ส่วนฝ่ายหญิง ตกเป็นของ Desiree Linden จากสหรัฐฯ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 39 นาที
ปีนี้ ยังคงมีประเด็นร้อนให้เป็นที่ถกเถียง นั่นก็คือ นโยบายที่ให้นักวิ่ง ลงแข่งในรายการ ที่“ตรงกับเพศ”ที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชน นั่นก็หมายความว่า นักวิ่งข้ามเพศ สามารถที่จะลงแข่งในเพศสภาพ“ปัจจุบัน”ของตนได้
ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างถึงความเท่าเทียมกันทางด้านกายภาพของนักวิ่งทั้งสองเพศ หรือหากจะมองอีกด้านหนึ่ง คือ การเป็นที่ยอมรับในสังคม ของบุคคลข้ามเพศ ยังถูกจำกัดอยู่ แม้ในวงการกีฬา ถึงแม้ทางด้านสมาคมกีฬาบอสตัน (Boston Athletic Association’s : B.A.A.) ได้รับทราบถึงปัญหา และได้ตั้งนโยบายใหม่ ในปี 2558 ที่อนุญาตให้นักวิ่ง ที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ และ ได้รับการบำบัดฮอร์โมน อย่างน้อย 2 ปี สามารถลงแข่งขันในรายการ ที่ตรงกับเพศในปัจจุบันของตนได้ก็ตาม แต่ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ออกนโนบายมาจนกระทั่งปีนี้
ซึ่ง สตีฟ โรเมอร์ (Stevie Romer) นักวิ่งข้ามเพศวัย 53 ปี เป็นบุคคลที่เป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ จาก นาย เป็น นางสาว ในเอกสารทางการเรียบร้อยแล้ว และยังยืนยันว่า เธอ คือผู้หญิงเต็มตัว และขอลงแข่งในฐานะ“นักกีฬาหญิง” 
ทำให้ รายการ  “The Ben Shapiro Show”หยิบยกประเด็นนี้ ขึ้นมาวิเคราะห์ โดยทาง Ben Shapiro พิธีกรประจำรายการ ได้ชี้ จุดอ่อนของนโยบาย นักวิ่งข้ามเพศ ในการแข่งขัน Boston Marathon ว่า หากทางสมาคมกีฬาบอสตัน ยังคงอนุญาตให้ผู้ชายที่เปลี่ยนเพศมาเป็นผู้หญิง สามารถลงแข่งในรายการนักวิ่งมาราธอนหญิงได้ ผู้หญิงแท้ก็จะไมีมีวันชนะได้
โดยมีเหตุผลสนันสนุนที่ชัดเจน คือ ผู้ชายที่เป็นเพศชายโดยกำเนิด แน่นอนว่า มีความได้เปรียบทางกายภาพ ที่โดยเฉลี่ยแล้ว จะสามารถวิ่งได้เร็วกว่าผู้หญิง ที่เป็นเพศหญิงโดยกำเนิด ทำให้นโยบายนี้ ควรถูกนำมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ถึงความเหมาะสมในการแบ่งกลุ่มนักกีฬา รวมถึง ผลกระทบต่อการให้รางวัลแก่ผู้ชนะ ด้วย
ส่วนตัว โรเมอร์ เอง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เธอรักในการวิ่ง และต้องการที่จะวิ่งต่อไป ดังนั้น เธอจึงไม่ต้องการให้ประเด็นนี้ กลายเป็นประเด็น ที่ทำให้นักกีฬาข้ามเพศ อีกหลายคน รู้สึกอึดอัดและลำบากใจ จากการโดนจัดกลุ่มให้กลับไปเป็นเพศเดิม ที่ตนไม่ได้ต้องการจะเป็น
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลยืนยันจาก ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสาร ของสมาคมกีฬาบอสตัน ที่เผยว่า ปีนี้ ไม่ได้เป็นปีแรก ที่มีนักวิ่งข้ามเพศ เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน และ ทางสมาคมได้อนุญาตให้นักแข่งเหล่านี้ สมัคร และ ลงแข่งในรายการตามเพศ ที่พวกเขาเป็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นเวลาหลายปีแล้ว
ส่วนทางด้าน Brexton Health Care ในรัฐ Maryland ศูนย์ดูแลบุคคลข้ามเพศ ก็ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ชายที่เปลี่ยนเพศมาเป็น ผู้หญิง ต้องได้รับการบำบัดฮอร์โมน โดยการเพิ่ม Estrogen เพื่อให้ความเป็นเพศหญิง สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ เอาเปรียบ และ เพื่อเอาชนะ ผู้หญิงแท้ ไม่ว่าจะในกิจกรรมใดๆ
ทางศูนย์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้ นอกจาก จะช่วยให้พวกเธอ ได้รับในสิ่งที่ต้องการมาตลอด นั่นก็คือ ร่างกายทางกายภาพ ที่ตรงกับเพศ และ จิตใจ ของเธอในปัจจุบันแล้ว 
ทางศูนย์มีความต้องการเพียงให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตประจำวันในแบบอย่างที่เป็นได้อย่างมีความสุข เท่านั้น 


ขอบคุณ ข่าวจาก http://news.ch3thailand.com/abroad/67056

Leave a Comment

Contact

Connect

Subscribe

Join our email list to receive the latest updates.

Add your form here